สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารแล้ว ความใส่ใจหลักที่มักโฟกัสเป็นสิ่งสำคัญนั้น ส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ภาพลักษณ์หน้าตา หรือว่าต้นทุนวัตถุดิบ

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ทั้งนี้ ทราบหรือไม่ว่า “แก้ว จาน ชาม” ในร้านนั้น ก็คือสิ่งสำคัญที่เราต้องให้ความใส่ใจ เพราะคือหนึ่งในต้นทุน ที่ถ้าดูแลไม่ดีจะทำให้ร้านมีต้นทุนสูงขึ้น และกลายเป็นทำให้กำไรที่ได้มานั้นหดลงไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว 4 สาเหตุที่มักทำให้แก้วร้านอาหารหายไป และเป็นเหตุให้ร้านอาหารต้องเสียงบประมาณซื้อใหม่ก่อนเวลาอันควรนั้น มักมีดังต่อไปนี้

 

1. พนักงานและลูกค้าในร้านทำแตก

“แตก” ถือเป็นสาเหตุคลาสสิกสุดๆ เป็นปัญหาหลักที่ทำให้ต้นทุนอุปกรณ์การให้บริการในร้านอาหารเพิ่มขึ้น โดยมีทั้งที่พนักงานร้านเป็นคนผิดพลาดทำแก้วแตกเอง และลูกค้าเป็นคนทำแตก ซึ่งสำหรับกรณีพนักงานทำแตกนั้น ก็มีได้ 2 สาเหตุ คือ แตกตอนเสิร์ฟจากความไม่ระมัดระวัง หรือการเดินชนกันเองในร้านระหว่างให้บริการ และแตกขณะขั้นตอนล้างทำความสะอาด ในส่วนของฝากฝั่งที่ลูกค้าทำแตก ก็อาจเกิดจากการเล่นกันของลูกค้า หรือการจับแก้วไม่ถนัดมือนั่นเอง

 

แนวทางการแก้ไข : สำหรับปัญหาพนักงานทำแก้วแตกนั้น หากเกิดในการเสิร์ฟและการให้บริการ วิธีแก้ไขคือจำเป็นต้องมีการอบรมพนักงานอย่างเข้มงวด ว่าจะต้องถือแก้วอย่างไร เสิร์ฟอย่างไร วางแก้ตรงไหน เพื่อไม่ให้ชนลูกค้า หรือการเดินไลน์ในการเสิร์ฟเป็นอย่างไร จะได้ไม่ชนกันเองจนเกิดอุบัติเหตุ แต่หากเกิดในขณะล้างจานนั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องอบรมพนักงานเช่นกันถึงวิธีการล้างแก้วอย่างถูกต้อง รวมถึงอาจต้องดูด้วยว่า ลักษณะของแก้วที่เราใช้นั้น เอื้อต่อการทำให้แก้วแตกหรือไม่ เช่น ปากแก้วแคบเกินไป ล้างลำบากจนทำให้เกิดผิดพลาดขึ้น ดังนั้น ควรเลือกแก้วที่มีความหนา เพื่อป้องกันสาเหตุแตก ร้าว บิ่น ได้ง่าย ส่วนสำหรับทางฝั่งของลูกค้า ถ้าลูกค้าทำแก้วตกแตกบ่อยจริงๆ การเปลี่ยนไปใช้แก้วแบบที่มีหูจับ ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าจะทำให้แก้วแตกน้อยลง

2. ลูกค้าถูกใจ เลยเผลอหยิบแก้วกลับบ้านไปด้วย

บ่อยครั้งเหมือนกันที่ร้านอาหารต้องประสบกับปัญหาการหยิบของในร้านกลับบ้านของลูกค้า และแก้วเครื่องดื่มก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่หยิบง่ายคล่องมือที่สุด ยิ่งเป็นแก้วสวยๆ ด้วยแล้ว ทานน้ำเสร็จปุ๊บ ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดทำความสะอาดนิดหน่อย แล้วก็ค่อยๆ หยิบใส่กระเป๋าไปได้เลยแบบไม่มีใครรู้ ทำให้กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็ไม่ทราบว่าทำไมแก้วหายไปไหนหมด แล้วต้องคอยซื้อมาเติมเรื่อยๆ

แนวทางการแก้ไข : ถ้าแก้วร้านเราสวยถึงขนาดลูกค้ายังอยากได้ ก็ต้องบอกว่าเป็นข้อดี ที่เราจะสามารถใช้เป็นช่องทางทำการตลาดได้ต่อ เช่น ขายแก้วให้ลูกค้า ส่วนวิธีป้องกันลูกค้าแอบเอาแก้วกลับบ้าน อาจใช้การทำป้ายประชาสัมพันธ์ตั้งไว้บนโต๊ะ บอกชัดๆ ไปเลยประมาณว่า “เราทราบดีว่าแก้วของเรามีความสวยงามเป็นพิเศษ เพราะแก้วทุกใบในร้านเราตั้งใจคัดสรรเพื่อคุณลูกค้า หากคุณลูกค้าชื่นชอบแก้วของเราและต้องการนำกลับบ้านโปรดติดต่อพนักงานให้บริการ” ได้ทั้งสร้างจุดสนใจและปรามลูกค้าไปพร้อมกัน

ส่วนวิธีอื่น ๆ ก็เช่นติดกล้องวงจรปิดภายในร้านเพื่อใช้ย้อนหาสาเหตุดูว่าแก้วที่หายไปในแต่ละวันมีลูกค้าแอบติดมือไปหรือไม่ เท่าไหร่ ส่วนการจะเอาผิดกับลูกค้าก็อาจจะเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของร้านตามมา ใช้วิธีแบบบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งดีกว่า เพราะเชื่อว่า กรณีแก้วหายแบบนี้คงเกิดขึ้นไม่มาก แต่ถ้าเกิดขึ้นมากก็อย่างที่บอก จัดเซ็ตขายแก้วซะเลย

3. พนักงานเผลอไผล กวาดทิ้งรวมไปกับเศษขยะ

นี่มากกว่าที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ยิ่งใกล้ช่วงเวลาร้านเลิกเมื่อไร ความเหนื่อยล้าของพนักงานก็จะยิ่งมีมากขึ้น และอาจทำให้เผลอ แทนที่จะทิ้งแต่เศษอาหารแต่ก็กลับเผลอทิ้งไปทั้งจานทั้งแก้วก็มี เลยทำให้กว่าจะรู้ตัวอีกที ขยะใหญ่ก็ถูกนำไปทิ้ง แล้วทำให้ร้านเสียแก้ว เสียจานไปง่ายๆ โดยไม่รู้ตัว

แนวทางการแก้ไข : ทำได้ 2 เสต็ป ง่ายๆ โดยเสต็ปแรกคือการกำชับกับพนักงานว่า จะต้องตรวจสอบและเช็คแก้วตอนเก็บโต๊ะทุกครั้ง ให้ครบตามจำนวน รวมถึงก่อนปิดร้านก็ควรต้องจัดการนับแก้ว จาน ชามด้วยว่าอยู่ครบหรือไม่ และเสต็ปที่สอง ก็คือ แยกถังขยะสำหรับเศษอาหาร และไม่ใช่เศษอาหาร วิธีนี้พนักงานจะถูกบังคับให้ต้องตรวจสอบขยะก่อนทิ้งอีกรอบระหว่างคัดแยกขยะเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอื่นใดที่มีค่าของร้านถูกทิ้งลงถังไปด้วย

 

4. ลืมไว้ในห้องน้ำ จุดสูบบุหรี่ ตามสไตล์นักดื่ม

สำหรับร้านอาหารที่มีการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอลนั้น มักประสบกับสถานการณ์แก้วหายจากโต๊ะ และพนักงานในร้านถูกเรียกขอแก้วเพิ่มบ่อยๆ จนพอมานั่งนับนั่งเช็คตอนสุดท้าย ก็ปรากฎว่าแก้วหายไปไหนไม่รู้เสียแล้ว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ สำหรับคอนักดื่มคือ ถือแก้วเหล้าไปห้องน้ำด้วย แล้วก็ไปลืมหยิบกลับออกมากลับมาด้วย หรือ นำไปวางไว้ตามโซนสำหรับสูบบุหรี่และก็ลืมทิ้งไว้

แนวทางในการแก้ไข : สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวเลยคือ ต้องมีการเดินตรวจสอบตามห้องน้ำ โซนสูบบุหรี่ หรือสถานที่รอบๆ ร้านด้วยเสมอ หากเป็นร้านแบบ Out Door ก็ยิ่งต้องมีพนักงานเดินดูทุกซอกทุกมุม เพราะเป็นไปได้ว่าลูกค้าจะถือแก้วเหล้าออกไปดื่มกับเพื่อนในจุดต่างๆ แล้ววางทิ้งไว้ เราจึงต้องคอยตรวจตราดูในทุกๆ จุด ให้พนักงานสอดส่องดูลูกค้าที่ลุกออกจากโต๊ะ เพื่อตามไปดูว่า ลูกค้าจะนำแก้วไปวางทิ้งไว้ที่ไหนหรือเปล่า เพื่อให้เราไม่เสียแก้วไปง่ายๆ โดยใช่เหตุ

แก้วทุกใบมีมูลค่าในตัวเองที่เป็นต้นทุนอันส่งผลต่อกำไรของร้าน ยิ่งเราทำแก้วหายบ่อยเท่าไร หรือยิ่งเราทำแก้วแตกเสียหายจำนวนมากแค่ไหน ต้นทุนในการดำเนินกิจการของเราก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น แทนที่เราจะลงทุนซื้อแก้วครั้งหนึ่งแล้วมีอายุการใช้งานได้หลายปี หากเราทำแก้วแตกหรือหายมาก ก็จะต้องเสียต้นทุนมากขึ้น ดังนั้น เรื่องแก้วเครื่องดื่ม ตลอดจนจานชามต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องเล็กที่มองข้ามได้ ควรเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรต้องใส่ใจ และมีมาตรการเตรียมพร้อมสำหรับรับมือไว้ เพื่อควบคุมและรักษากำไรของร้านเอาไว้ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

 

This will close in 0 seconds